10 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ให้แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำ

สร้างแบรนด์ – หากคุณคิดจะทำการค้า แน่นอนว่าต้องมี “คู่แข่ง” เพราะแม้สินค้าที่วนเวียนอยู่ในตลาดจะมีจำนวนมากเพียงใด แต่สินค้าหรือบริการที่คุณคิดจะขายย่อมมีโอกาสซ้ำกับใครสักคนอยู่ดี และสิ่งเดียวที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างคุณกับคนอื่นได้ ก็คือ การสร้างแบรนด์ (Branding) นั่นเอง ที่กล่าวไปสามารถดำเนินไปได้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ด้วยการฝังตัวเองลงในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและพฤติกรรมการซื้อ เพื่อที่ผู้คนจะได้ไม่ต้องคิดแล้วคิดอีกหรือลังเลใจก่อนที่จะกลายเป็นลูกค้า เทคนิคที่ YAO จะพาไปเจาะลึกวันนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ ในการสร้างแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมายของคุณตลอดจนการสร้างแคมเปญทางการตลาดที่จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจที่จะก้าวไปพร้อมกับธุรกิจของคุณได้อย่างต่อเนื่อง

การ สร้างแบรนด์ คืออะไร?

มาทำความรู้จักกันก่อน

แบรนด์ (Brand) คือ แนวคิดหรืออุดมคติที่แสดงถึงองค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการขององค์กรนั้น โดยสามารถถ่ายทอดพันธกิจและภาพลักษณ์ผ่านชุดข้อความที่กำหนดได้ ส่วนการสร้างแบรนด์ (Branding) คือ การสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ จนเกิดเป็นภาพจำให้กับผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นจนเกิด Conversion หรือการตัดสินใจซื้อในที่สุด

การสร้างแบรนด์ สามารถแบ่งออกได้ เป็นสองลักษณะ ดังต่อไปนี้

1.การ สร้างแบรนด์ ส่วนบุคคล

  • เราทุกคนต่างก็มีแบรนด์ส่วนตัว ทุกคนมีชื่อ ใบหน้า สไตล์ และวิธีการสื่อสาร ด้วยลักษณะเหล่านี้เราสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่แตกต่างกัน  การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลเป็นการแสดงถึงตัวคุณในฐานะแบรนด์ การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องของการนำเสนอธุรกิจของคุณต่อผู้อื่น ในขณะที่การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลนั้นเกี่ยวกับการนำเสนอตัวเองในแบบที่ทำให้คุณน่าจดจำและส่งเสริมมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้สนับสนุนรายบุคคลหรือมีบทบาทการจัดการที่สูงขึ้นภายในองค์กรของคุณ การมีแบรนด์ส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งสามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นของคุณซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลสามารถช่วยให้คุณได้รับการส่งเสริมมากขึ้นโดยเน้นทักษะและความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณในขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเองแตกต่างจากคู่แข่งที่เหลือในอุตสาหกรรมของคุณ

2. การ สร้างแบรนด์ ทางธุรกิจ

  • เช่นเดียวกับการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล ทุกแบรนด์ทุกธุรกิจต่างก็มีชื่อ ผลิตภัณฑ์ โลโก้ สี แบบอักษร เสียง และชื่อเสียงที่ประกอบเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นและส่งผลต่อการรับรู้ของพวกเขา การสร้างตราสินค้าสำหรับธุรกิจแตกต่างจากการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล โดยเป็นการสร้างสถานะที่แข็งแกร่งและน่าจดจำสำหรับธุรกิจของคุณ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้แบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปลูกฝังความไว้วางใจภายในตลาดเป้าหมายของคุณ โดยทั่วไปแล้ว การสร้างแบรนด์ถือเป็นกระบวนการทั้งหมดในการสร้างการรับรู้ สร้างความสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำจากลูกค้า ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกในประเด็นของการสร้างแบรนด์ทางธุรกิจ
  • การสร้างแบรนด์ทางธุรกิจ คือการสร้างความตระหนักและส่งเสริมชื่อเสียงและการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) โดยใช้กลยุทธ์และยุทธวิธีต่างๆ ทางการตลาด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเสริมสร้างตราสินค้าโดยใช้แคมเปญโฆษณาและกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย การสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญของทุกบริษัท เนื่องจากเป็นเสมือนเสียงที่มองเห็นได้ของบริษัท เป้าหมายของการสร้างแบรนด์ คือ การสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการใช้แคมเปญโฆษณาโดยตรงเพื่อเพิ่มส่งเสริมผลิตภัณฑ์เฉพาะ สร้างการเชื่อมต่อ และมอบคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ตลอดจนความภักดีของลูกค้าและการรับรู้ถึงแบรนด์
  • เมื่อธุรกิจใช้กลยุทธ์ทางการตลาดมาผนวกรวมกันจะเกิดเป็นพลังอันมหาศาลของการสร้างแบรนด์ซึ่งกุญแจสู่ความสำเร็จของแบรนด์นั้นขึ้นอยู่กับการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าตามที่แบรนด์ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ การมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งถือเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า นอกจากนี้ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนและมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัท แบรนด์ที่แข็งแกร่งจึงถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินที่จะจัดการได้เหมือนกับทรัพย์สินอื่นๆ ขององค์กรคุณไม่สามารถเข้าถึงวิธีการสร้างแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากความสม่ำเสมอและคงไว้ซึ่งความสอดคล้องนั้นเมื่อคุณขยายแบรนด์ของคุณไปยังทุกส่วนของธุรกิจของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างแบรนด์ ควรเริ่มต้นด้วยการสร้างความสอดคล้องและความรู้สึกที่คุณต้องการให้เกิดขึ้น 

การสร้างแบรนด์ (Branding) มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร?

“แล้วการสร้างแบรนด์จำเป็นแค่ไหน?” คุณอาจคิดว่าไม่ – เพราะที่สุดแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือยอดขาย แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่ขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อมีเพียงไม่กี่ปัจจัย บ่อยครั้งที่ผู้คนตัดสินใจซื้อเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ หรือแม้แต่เพียง “เคยได้ยินชื่อเสียง” เท่านั้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมาจากการปฏิบัติตามขั้นตอนการสร้างแบรนด์ทั้งสิ้น โดยเราสามารถสรุปประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ได้ ดังนี้

1. เทคนิคด้านจิตวิทยา

ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะส่งผลต่อการตอบสนองของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ โลโก้และอัตลักษณ์กราฟิกของธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สอดคล้องกับทัศนคติ แรงบันดาลใจ และความต้องการของผู้ชมเป้าหมายของคุณ องค์ประกอบมากมายของการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นสี รูปทรง ลวดลาย ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ในกลุ่มผู้ชมที่แตกต่างกัน ซึ่งนี่คือเหตุผลที่การวิจัยลูกค้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาแบรนด์

2. ช่วยเพิ่มการรับรู้

ธุรกิจที่มีตราสินค้าดีและโดดเด่น คือ ธุรกิจที่สร้างการรับรู้ถึงกลุ่มเป้ามหายด้วยการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ ธุรกิจที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าพวกเขาเป็นใครและผู้ชมที่พวกเขาต้องการให้บริการคือใคร ย่อมเป็นธุรกิจที่สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจนว่าทำไมแบรนด์ของตัวเองถึงดีกว่าหรือแตกต่างจากคู่แข่ง

3. ช่วยให้ผู้คนจะรู้จักธุรกิจมากขึ้น

เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดประการหนึ่งที่ธุรกิจต้องการการสร้างแบรนด์ คือ การช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงบ่อยขึ้น หากคุณมีการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของคุณ ธุรกิจที่ไม่มีการสร้างแบรนด์ที่เหนียวแน่นมั่นคงจะไม่สามารถอยู่ในใจใครซักคนได้นานพอ ก่อนที่ความสำเร็จจะมาถึง

4. ช่วยสร้างความไว้วางใจ

รูปลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้บริโภคอาจคิดทบทวนอีกครั้งเกี่ยวกับการเลือกซื้อกับแบรนด์หรือบริษัทที่ดูไม่เรียบร้อยหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกับที่เรากล่าวไว้ข้างต้น ปฏิกิริยาทางอารมณ์ต่อรูปลักษณ์และความรู้สึกของแบรนด์นั้นเดินสายเข้าไปในสมองของเรา และปฏิกิริยาเหล่านั้นสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ

5. ช่วยสร้างความภักดีของลูกค้า

ผู้บริโภค (โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล) ถูกดึงดูดและภักดีต่อแบรนด์ที่มีความเชื่อเหมือนกัน เมื่อพัฒนาข้อความแบรนด์ของคุณ การสื่อสารค่านิยมของคุณเพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับตลาดเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ความจงรักภักดีต่อตราสินค้ามักจะคงอยู่ชั่วชีวิตและหลายต่อหลายครั้งที่ตกทอดมาถึงลูกหลาน

6. ช่วยให้พนักงานของบริษัทพึงพอใจในงาน

หากพนักงานทำงานในธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับและพวกเขารู้สึกหนักแน่นเกี่ยวกับภารกิจและค่านิยมของธุรกิจ พวกเขาจะภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำและรู้สึกพึงพอใจกับงานของตนมากขึ้น พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะโน้มน้าว บริษัท และงานที่ทำกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ของพวกเขาด้วย! เคล็ดลับการสร้างแบรนด์ที่ควรรู้ คือ การจัดหาสินค้าส่งเสริมการขายให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณ!

7. ช่วยให้วางกลยุทธ์การโฆษณาได้ง่ายขึ้น

ในยุคดิจิทัล ธุรกิจของคุณจะไม่สามารถไปได้ไกลหากปราศจากโฆษณา เพราะการสร้างแบรนด์และการโฆษณาเป็นของคู่กัน หากคุณต้องการมีโฆษณาที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจของคุณ คุณต้องสร้างแบรนด์ให้ดีก่อน เมื่อคุณโฆษณาธุรกิจของคุณ คุณต้องแสดงให้ผู้ชมเห็นและรับรู้ถึงเอกลักษณ์และค่านิยมของธุรกิจของคุณ เพราะถ้าหากคุณกำลังโฆษณาโดยไม่มีการสร้างแบรนด์ที่มั่นคง คุณอาจพลาดโอกาสดีๆ มากมายในการสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพ เพราะการรวมแบรนด์เข้ากับโฆษณาของคุณย่อมช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของคุณเมื่อเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน

10 ขั้นตอนสำคัญในการสร้างแบรนด์

หากจะกล่าวว่าแบรนด์ คือหัวใจและจิตวิญญาณของบริษัทของคุณ สิ่งที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการโน้มน้าวการรับรู้ของผู้ชม ผลักดันผู้สนับสนุนทั้งหลายให้มาที่องค์กรของคุณ ท้ายที่สุดแล้ว การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่การเลือกโลโก้หรือการเลือกชื่อที่สมบูรณ์แบบ แบรนด์ที่แข็งแรง เป็นผลจากปัจจัยต่างๆ ที่ต้องเชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนคิดและรู้สึกเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ วันนี้เราจะแสดงวิธีสร้างแบรนด์ที่ช่วยให้ผู้คนกลับมาซื้อซ้ำกับคุณได้ ด้วยเทคนิคที่สำคัญ 10 ขั้นตอนที่คุณต้องทำดังต่อไปนี้

1. ตัดสินใจเกี่ยวกับชื่อแบรนด์

การสร้างแบรนด์เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างกว้าง และครอบคลุมสิ่งต่างๆ มากมาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดในอันดับแรกที่ต้องคิดในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ คือ การตั้งชื่อแบรนด์ เนื่องจากชื่อแบรนด์ย่อมมีมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ทางการตลาด โลโก้ โดเมน และการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คุณจึงต้องเลือกชื่อที่มีความเกี่ยวข้องและน่าจดจำ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ยาวจนเกินไปเพื่อให้ผู้คนจดจำได้ง่าย 

2. เลือกสโลแกนที่ติดหู

คุณสามารถใช้สโลแกนบนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย นามบัตร และเว็บไซต์ได้ ช่วยอธิบายผลิตภัณฑ์ของคุณและส่งข้อความที่จำเป็นไปยังผู้ชม สโลแกนที่ติดหูสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าและจดจำแบรนด์เฉพาะได้ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเอกลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณ

3. นึกถึงการออกแบบแบรนด์

แบบแผนชุดสี และแบบอักษร นับว่ามีบทบาทสำคัญเมื่อคุณสร้างแบรนด์ การใช้การออกแบบแบรนด์เดียวกันในช่องทางการตลาดต่างๆ ช่วยให้คุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ลูกค้า การออกแบบควรสื่อถึงบริษัทของคุณได้อย่างชัดเจน ด้วยความช่วยเหลือของสีที่เหมาะสมคุณจะสามารถสื่อสารข้อความและความรู้สึกที่จำเป็นได้

4. สร้างโลโก้แบรนด์ที่ไม่ซ้ำใคร

โลโก้ยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของแบรนด์อีกด้วย โลโก้ที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำจะช่วยให้คุณสามารถสร้างความประทับใจแรกพบที่แข็งแกร่ง ด้วยโลโก้จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับเอกลักษณ์ของแบรนด์ ช่วยดึงดูดความสนใจ และเพิ่มความภักดีของลูกค้า โปรดจำไว้ว่า โลโก้แบรนด์ถือเป็นหนึ่งในหน้าตาของบริษัท ควรมีความโดดเด่นสำหรับคนที่ให้ความสนใจและจดจำมัน เมื่อคุณพัฒนาโลโก้ที่ยอดเยี่ยมแล้ว อย่าลืมใส่โลโก้แบรนด์ของคุณบนเว็บไซต์ บัญชีโซเชียลมีเดีย ผลิตภัณฑ์ แบนเนอร์ โฆษณาที่เป็นไปได้ทั้งหมด

5. กำหนดนิยามของแบรนด์

นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วจะเป็นตัวกำหนดว่าแบรนด์ของคุณยืนหยัดเพื่ออะไร เมื่อถึงเวลากำหนดนิยามของแบรนด์ทางธุรกิจของคุณ คุณควรสร้างรายการตรวจสอบจุดแข็งหลักของแบรนด์ และตอบคำถามให้ได้ว่าอะไรคือ คุณค่าที่สำคัญของคุณ หัวใจสำคัญอยู่ที่ค่านิยมของคุณควรแสดงออกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งว่าคุณมีส่วนทำให้เกิดความผาสุกด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของผู้บริโภค 

6. กำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณและวิจัยคู่แข่ง

เมื่อพูดถึงการสร้างแบรนด์ สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง คือ คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังพยายามเข้าถึงใคร การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับลูกค้าในอุดมคติและคู่แข่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ  คุณจำเป็นต้องสำรวจตลาด ต้องระบุและอธิบายถึงลูกค้าในอุดมคติของคุณ (Creating buyer personas)  และกำหนดระดับการแข่งขัน เพื่อให้เข้าใจตลาดเป้าหมายของคุณและความต้องการของตลาด ลองทำแบบสำรวจสั้นๆ เพื่อสอบถามผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเกี่ยวกับแบรนด์ที่พวกเขาต้องการซื้อ นอกจากนี้ คุณยังสามารถศึกษาข้อมูลของคู่แข่งผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของแบรนด์และบริษัทต่างๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน และนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์ของพวกเขาเพื่อค้นหาความชอบของผู้มีโอกาสเป็นผู้ชมของคุณในอนาคต

7. สร้างความแตกต่าง และวางตำแหน่งของแบรนด์

ก่อนเริ่มดำเนินการสร้างแบรนด์ คุณต้องใช้เวลาในการสร้างความแตกต่างเพื่อดึงดูดความสนใจและโดดเด่นจากคู่แข่ง ในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณ คุณต้องสร้างข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครในใจของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ดึงดูดความสนใจจากสีหรือโลโก้ของการสร้างแบรนด์หรือองค์ประกอบผิวเผินอื่นๆ เมื่อคุณได้ข้อเสนอมูลค่าที่ไม่เหมือนใครแล้ว คุณควรใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ดีเพื่อวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณในแบบที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมองเห็นและชื่นชมคุณค่าของแบรนด์ของคุณที่มากกว่าคู่แข่งในตลาด

8. แบ่งปันเรื่องราวของแบรนด์

การสร้างแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์และทรงพลังต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ คุณสามารถใช้ช่องทางส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้ง บล็อก ฟอรัม และโซเชียลมีเดีย (LinkedIn, Twitter และ Facebook) เพื่อสร้างเสียงส่วนตัวสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ คุณควรพยายามพัฒนาบุคลิกภาพของแบรนด์ด้วย (สิ่งที่ผู้คนรู้ คิด และพูดเกี่ยวกับตัวคุณ) เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนหรือกระตุ้นให้ผู้คนระบุตัวตนและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณ

ความจริงคือ หากคุณใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถสร้างรูปแบบที่จะเชื่อมโยงกับชื่อแบรนด์ของคุณตลอดไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ของคุณในช่องทางการตลาดต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับค่านิยมของบริษัทของคุณ คือการต้องบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ผู้คนฟังด้วยข้อเท็จจริง และความรู้สึกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภารกิจและวัตถุประสงค์ของคุณมีความชัดเจน เพื่อให้ผู้คนสามารถค้นพบแบรนด์และค่านิยมของคุณได้มากขึ้นและทำการตัดสินใจว่าจะเป็นลูกค้าของคุณหรือไม่ 

9. ปรับแต่งแบรนด์

หากคุณต้องการให้แคมเปญสร้างแบรนด์หรือแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ คุณต้องปรับแต่งให้มีความเฉพาะตัว สิ่งสำคัญ คือ ต้องสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ ให้ผู้บริโภคได้เห็นและสัมผัสกับบุคลิกของแบรนด์ของคุณอย่างครบถ้วน ให้มองแบรนด์ของคุณเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจะระบุได้มากพอๆ กับที่พวกเขาทำกับรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ที่พวกเขาชื่นชอบหลงใหล ในขณะที่คุณมีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์คุณควรเชิญลูกค้าให้เป็นผู้ร่วมสร้างคุณค่าของแบรนด์เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นเจ้าของและมีความเกี่ยวข้องกับมันด้วย แบรนด์ชั้นนำส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ผู้บริโภคกับสินค้าโดยปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการและความชอบของผู้บริโภค เมื่อคุณปรับแต่งแบรนด์ของคุณ คุณให้เหตุผลผู้บริโภคในการมีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณไปตลอดชีวิต

10. ตรวจสอบสถานะของแบรนด์

สุดท้ายแล้วอาจเป็นธรรมดาที่ชื่อเสียงของแบรนด์อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นธณรมดาในช่วงชีวิตของแบรนด์  ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์แบรนด์ของคุณ แบรนด์ของคุณจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หรืออยู่เฉยๆ หรือค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา ในวัฏจักรของแบรนด์ เหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์ใหม่ๆ นำมาซึ่งความท้าทายและโอกาสในการเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ของคุณหรือสร้างมันขึ้นมาใหม่

ความเป็นไปได้ทั้งหมดเหล่านี้ควรเป็นแรงผลักดันให้คุณรับผิดชอบกิจกรรมต่างๆ ในการสร้างแบรนด์ของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการรับประกันการเติบโตของแบรนด์ คือการทบทวนกิจกรรมและประเมินความสำเร็จของคุณผ่านเมตริกต่างๆ เช่น ระดับการรับรู้ถึงแบรนด์ และระดับการมีส่วนร่วม เป็นต้น

การตรวจสอบแบรนด์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ในขณะเดียวกันยังช่วยรักษาความมุ่งมั่นของคุณที่จะยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของแบรนด์คุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณควบคุมแบรนด์ของคุณไปในทิศทางที่ถูกต้องเมื่อคุณก้าวไปสู่อนาคต

อีกหนึ่งตัวช่วยของการสร้างแบรนด์

YAO INNOFOOD PLUS  คือบริษัทรับผลิตอาหารเสริม ที่เปิดทำการด้วยความมองเห็นอนาคตของธุรกิจแนวใหม่ สำหรับ คำว่า OEM กลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ จึงเริ่มยกระดับความสามารถขององค์กร จากบริษัทนำเข้าสารสกัด เพื่อจำหน่ายให้กับองค์กรอื่นๆ ทั้งใน และ ต่างประเทศ เมื่อกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่มองเห็นแล้วว่า ธุรกิจนี้กำลังเป็นที่น่าสนใจ และเป็นธุรกิจใหม่กับคนไทย เพราะการที่จะเป็นผู้ประกอบการ เพื่อที่จะมีผลิตภัณฑ์สินค้าเป็นของตนเองสักอย่าง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งปัจจัยในเงินลงทุน ทีมงาน ตลาดรองรับ สินค้าที่มีคุณภาพ การประสารงานกับหน่วยงานราชการ จึงได้เกิดเป็น YAO INNOFOOD PLUS  ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายเล็ก ที่มีเงินทุนไม่มาก แต่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เราก็พร้อมจะพลักดันให้เกิดขึ้น เปรียบเหมือนเพื่อนคู่คิดของธุรกิจของคุณ

 

ในยุคปัจจุบันที่นักธุรกิจหน้าใหม่เกิดขึ้นได้ง่าย การสร้างแบรนด์สินค้าประเภทอาหารเสริมกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะสามารถทำได้เร็วมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน เนื่องจากมีโรงงานรับผลิตอาหารเสิรมครบวงจร พร้อมที่จะรองรับอยู่เป็นจำนวนมาก หากเพียงมีไอเดีย และทุน ก็สามารถเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมได้เลยและอาหารเสริมยังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน กลุ่มคนหลายๆกลุ่มกำลังให้ความสำคัญกับอาหารเสริมมากขึ้น เพราะเรื่องสุขภาพและการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เวลาที่น้อยลง การดูแลตัวเอง และการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่น้อยลง การมองหาอาหารเสริมจึงเป็นเรื่องจำเป็นและช่วยทดแทนในส่วนที่ร่างกายขาดหายไปได้ จึงทำให้มีแบรนด์อาหารเสริมเกิดขึ้นมาเป็นจำนวนวมาก และสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรคำนึงถึงและระวัง ก็คือ การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ดีที่สุด เป็นอันดับแรก ก่อนเรื่องใด ๆ ถ้าอาหารเสริมดี สินค้าคุณดี บริการดี การตลาดดี การขยายตลาดดี ยังไงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่คุณวางแผนไว้ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หรือไกลจากความเป็นจริงอีกต่อไป YAO INNOFOOD PLUS เป็นบริษัทรับผลิตอาหารเสริมครบวงจรทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ สมุนไพรต่างๆ และยังให้บริการดูแลด้านการพัฒนาสูตร คิดค้นสูตร เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังรวมไปถึงการให้บริการตั้งแต่ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), ฮาลาล ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของแบรนด์ลูกค้า ทางบริษัท YAO INNOFOOD PLUS ยังให้บริการในส่วนของ (OEM) หรือ OEM อาหารเสริม ด้วยประสบการณ์ทำงานที่มากกว่า 6 ปี และผลิตภัณฑ์ต่างๆมากกว่า 100 ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า โรงงานของเราไม่เพียงแค่รับผลิตอาหารเสิรม ยังมีบริการให้คำปรึกษาก่อนการผลิต และหลังการผลิตและให้ข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดที่ชัดเจนถูกต้อง รับฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เน้นสร้างความเข้าใจก่อนการทำงาน แนะนำในส่วนของข้อมูลการผลิต สรรพคุณของตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ออกมาตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งโรงงานของเราจะช่วยในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินการและหลังจากเสร็จสิ้นการผลิต เพื่อให้ทางลูกค้ามั่นใจได้ว่าทางเราใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดและคุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์ที่จะออกมา ผลิตภัณฑ์ที่มาจากบริษัทของเรา ผ่านมาตรฐานและมีคุณภาพต่างๆมากมายที่ทางบริษัท YAO INNOFOOD PLUS ได้สร้างขึ้นมา โรงงานของเราได้รับมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) เป็นมาตรฐานตรวจวัดขั้นตอนการผลิต ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์วัดสถานที่ผลิตภัณฑ์ต้องมีความสะอาด ถูกสุขภาพอนามัย การผลิตถูกต้อง ปราศจากการปนเปื้อนในสายการผลิต ตลอดถึงควบคุมบุคลลากรในการผลิตให้ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐาน กล่าวโดยรวมคือการดูแลการผลิตครอบคลุมทั่วโรงงาน ซึ่งโรงงงานอาหารเสริม จำเป็นต้องมี GMP เป็นไปตามข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน้าที่ตรวจสอบ โดยบริษัทเอกชนจะไม่มีสิทธิ์เข้าดำเนินการตรวจสอบใดๆทั้งสิ้นควบคุมโดยทีมแพทย์แผนไทยผู้ที่มีประสบการณ์ ให้เราดูแลรับผลิตอาหารเสริมครบวงจรให้คุณ เพราะเราเชี่ยวชาญในด้านการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีและตรงตามความต้องการของคุณในราคาที่เหมาะสม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัย มั่นใจได้ โรงงานของเราพร้อมเดินหน้าไปกับคุณเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับของสังคมในอนาคตต่อไป

 

ทุกคนอยากที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราอยากสร้างความมั่นใจห้กับลูกค้าทุกท่านว่า YAO INNOFOOD PLUS สามารถทำให้มันเป็นจริงได้ไม่เพียงแค่เป็นความฝัน หากใครที่กำลังมองหาโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับสากล ราคาถูก ผลิตขั้นต่ำน้อย ความเสี่ยงไม่มาก ไม่ยุ่งยากให้โรงงานของให้คำปรึกษาตรงไปตรงมา แนะนำและวางแผนการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ให้เราเป็นตัวเลือกในธุรกิจของคุณ